ไม่มีประสบการณ์ อยากเปลี่ยนสายงาน ทำอย่างไร?
- เบื่อกับงานเดิมๆ ทำมาหลายปีแล้วไม่ก้าวหน้า อยากจะเปลี่ยนประเภทธุรกิจหรือตำแหน่งงานใหม่ที่สนใจมากกว่าก็ไม่มีประสบการณ์ จะทำอย่างไรให้นายจ้างที่ใหม่เห็นว่าเราทำงานนั้นได้ ลองนำ 4 วิธีนี้ไปปรับใช้:
อย่างแรกเลยคุณต้องรู้ว่างานใหม่นั้นต้องเจออะไรบ้าง เราสนใจจริงๆใช่หรือไม่ รวมถึงทักษะอะไรที่จำเป็นในการที่จะประสบความสำเร็จในสายงานใหม่ ลองอ่าน Blog หรือ Vlog และเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับคนสายงานนั้นๆ ดูก่อน หรือถ้ามีเวลาอาจเข้าไปฟังงานสัมนาออนไลน์ หรือร่วมอีเว้นท์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนั้นๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีข้อมูลแบบ Insights ในสายงานใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
2. ไฮไลท์ทักษะเดิมที่เคยมีในปัจจุบัน
อย่าคิดว่าสกิลเดิมของเรานั้นไม่มีความหมายเมื่อเปลี่ยนสายงาน ของพวกนี้เชื่อมโยงกันได้เสมอในโลกของการทำงาน โดยเฉพาะ Soft Skills ต่างๆ ที่สามารถเป็นประโยชน์ต่อทุกๆ งาน อาทิ Communication Skills ทักษะการสื่อสาร, Organization Skills ทักษะการบริหารจัดการ, Negotiation Skills ทักษะการเจรจาต่อรอง, และ Problem Solving ทักษะการแก้ปัญหา ลองอธิบายเหตุผลที่เหมาะสมให้กับนายจ้างในธุรกิจใหม่ฟังด้วยการยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่าคุณจะนำทักษะที่มีเหล่านี้จากประสบการณ์ในสายงานเดิม มาประยุกต์ใช้กับงานใหม่ได้อย่างไรบ้าง ไม่แน่ว่าคุณอาจจะดูโดดเด่นกว่าผู้สมัครที่มีแต่ทักษะเฉพาะทางในสายตานายจ้างก็เป็นได้
3. อัพสกิล เพิ่มทักษะที่สายงานใหม่ต้องการ
จากที่ได้พูดคุยหรือศึกษาข้อมูลจากคนในสายงานใหม่แล้ว ก็คงจะมองเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่าคุณพอจะมีทักษะอะไรบ้างที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับงานในสายอาชีพใหม่ได้ ขั้นตอนต่อไปก็คือการอัพสกิลที่จำเป็น อย่างเช่น การไปลงคอร์สอบรมฟรีออนไลน์ การเข้าฝึกอบรมระยะสั้น ฯลฯ เป็นต้น การผ่านหลักสูตรอบรมเหล่านี้จะทำให้นายจ้างในธุรกิจใหม่เห็นว่าคุณเป็นคนที่มีความกระตือรือร้นและตั้งใจจริงที่จะเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้
4. ปรับแต่ง Resume (เรซูเม่)
เมื่อทำทุกอย่างที่ว่ามาข้างต้นแล้ว ขั้นตอนสำคัญที่สุดก็คือการแก้ไขปรับปรุงเรซูเม่ของคุณเอง แน่นอนว่าการย้ายสายงาน Resume อันเดิมของคุณก็จะใช้ไม่ได้แล้ว คุณจะต้องเพิ่มสิ่งต่างๆ ที่ทำมาข้างต้นทั้งหมดให้กับฝ่ายบุคคลหรือ Recruitment Agency เห็นถึงความตั้งใจ และทักษะใหม่ๆที่คุณเหมาะกับงานที่สมัครไป กลยุทธ์เหล่านี้จะเพิ่มโอกาสในการย้ายสายอาชีพของคุณได้อย่างแน่นอน!
2. ไฮไลท์ทักษะเดิมที่เคยมีในปัจจุบัน
อย่าคิดว่าสกิลเดิมของเรานั้นไม่มีความหมายเมื่อเปลี่ยนสายงาน ของพวกนี้เชื่อมโยงกันได้เสมอในโลกของการทำงาน โดยเฉพาะ Soft Skills ต่างๆ ที่สามารถเป็นประโยชน์ต่อทุกๆ งาน อาทิ Communication Skills ทักษะการสื่อสาร, Organization Skills ทักษะการบริหารจัดการ, Negotiation Skills ทักษะการเจรจาต่อรอง, และ Problem Solving ทักษะการแก้ปัญหา ลองอธิบายเหตุผลที่เหมาะสมให้กับนายจ้างในธุรกิจใหม่ฟังด้วยการยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่าคุณจะนำทักษะที่มีเหล่านี้จากประสบการณ์ในสายงานเดิม มาประยุกต์ใช้กับงานใหม่ได้อย่างไรบ้าง ไม่แน่ว่าคุณอาจจะดูโดดเด่นกว่าผู้สมัครที่มีแต่ทักษะเฉพาะทางในสายตานายจ้างก็เป็นได้
3. อัพสกิล เพิ่มทักษะที่สายงานใหม่ต้องการ
จากที่ได้พูดคุยหรือศึกษาข้อมูลจากคนในสายงานใหม่แล้ว ก็คงจะมองเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่าคุณพอจะมีทักษะอะไรบ้างที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับงานในสายอาชีพใหม่ได้ ขั้นตอนต่อไปก็คือการอัพสกิลที่จำเป็น อย่างเช่น การไปลงคอร์สอบรมฟรีออนไลน์ การเข้าฝึกอบรมระยะสั้น ฯลฯ เป็นต้น การผ่านหลักสูตรอบรมเหล่านี้จะทำให้นายจ้างในธุรกิจใหม่เห็นว่าคุณเป็นคนที่มีความกระตือรือร้นและตั้งใจจริงที่จะเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้
4. ปรับแต่ง Resume (เรซูเม่)
เมื่อทำทุกอย่างที่ว่ามาข้างต้นแล้ว ขั้นตอนสำคัญที่สุดก็คือการแก้ไขปรับปรุงเรซูเม่ของคุณเอง แน่นอนว่าการย้ายสายงาน Resume อันเดิมของคุณก็จะใช้ไม่ได้แล้ว คุณจะต้องเพิ่มสิ่งต่างๆ ที่ทำมาข้างต้นทั้งหมดให้กับฝ่ายบุคคลหรือ Recruitment Agency เห็นถึงความตั้งใจ และทักษะใหม่ๆที่คุณเหมาะกับงานที่สมัครไป กลยุทธ์เหล่านี้จะเพิ่มโอกาสในการย้ายสายอาชีพของคุณได้อย่างแน่นอน!