Burnout Syndrome หมดไฟไม่อยากทำงาน แก้ไงดี ?
‘’ช่วงนี้หมดไฟไม่อยากทำอะไร แถมยังรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่ไปทำงาน ไม่มีความสุขเลย’’
นี่อาจจะเป็นความในใจของใครหลายๆคนที่อาจจะเริ่มทำงานไปได้สักพักแล้วเกิดคำถามว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้นใช่ทางที่เหมาะกับตัวเองหรือเปล่า ทำไมรู้สึกเหนื่อย ไม่เอนจอยกับสิ่งตรงหน้าเลย แต่ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาหลัก เราต้องมาทำความรู้จักกับคำว่า ‘Burnout’ หรือ ‘ภาวะหมดไฟ’ กันก่อน (Burnout Syndrome) โดยจะมีอาการเหนื่อยล้าทางความรู้สึก คิดว่าตัวเองไม่มีความสามารถ ไม่สามารถแก้ปัญหาบางอย่างได้ หมดแรงจูงใจ และกำลังมองงานที่ตัวเองทำอยู่ในเชิงลบ ซึ่งถ้าปล่อยไว้และทนอยู่ในอารมณ์แบบนี้เรื่อยๆ อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานได้ หรือถึงขั้นคิดเรื่องลาออกจากงานเลยทีเดียว
‘แล้วทีนี้เราจะหาทางออกและรับมือกับความรู้สึกแบบนี้ยังไงดีหละ?’
1.หาเวลาให้ได้พักหายใจ
การดูแลและจัดระเบียบชีวิตก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน ลองคิดดูสิว่าจะรู้สึกดีต่อใจแค่ไหน ถ้าเราได้จัดสรรเวลาให้ตัวเองได้พักหายใจสักแปปนึง ได้ทำงานอดิเรกที่ชอบ ได้นอนพักผ่อนเต็มอิ่ม ถ้าวันๆเราทำแต่งานอย่างเดียว พอเลิกงานก็ตรงดิ่งกลับบ้านอาบน้ำนอน สุดท้ายเราจะแทบไม่มีเวลาให้กับตัวเองได้ทำอะไรใหม่ๆเลย ทำไมไม่ลองเปลี่ยนไปเดินเล่นฟังดนตรีสด อ่านหนังสือไม่ก็ดูหนังที่ชอบ หรืออาจจะลองทำในสิ่งที่อยากทำมาตั้งนานแล้วแต่เราดันผลัดวันประกันพุ่งมาตลอดดูหละ การโฟกัสกับเรื่องงานเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ควรโฟกัสตัวเองด้วยโดยเฉพาะกับเรื่องของความรู้สึก
2.อย่าปิดใจและอย่าลังเลที่จะขอคำปรึกษา
ในบางครั้งการที่เราเก็บความรู้สึกไว้เงียบๆคนเดียวจะยิ่งเป็นผลแย่ ลองเปิดใจไปปรึกษาเพื่อนสนิท คนในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานที่รู้จักกันประมาณนึงก็ได้ การได้แลกเปลี่ยนความคิดต่างๆอาจช่วยให้คุณได้เห็นถึงมุมมองและความเป็นไปได้ใหม่ๆ หรืออย่างน้อยก็ได้ปลดปล่อยและระบายให้ใครสักคนได้ฟังถึงปัญหาและความรู้สึกของคุณจริงๆ
และถ้าได้ผลสรุปแล้วว่าที่ตรงนั้นไม่เหมาะกับตัวเองก็ควรที่จะถอยและก้าวออกมา อย่าได้ลังเลและฝืนทนจนทำให้เราค่อยๆแตกสลายและพังลงอย่างช้าๆ ‘’การถอยไม่ได้หมายถึงการยอมแพ้หรือใจไม่สู้ เราแค่ต้องหาเส้นทางใหม่ที่เหมาะกับตัวเองและก้าวเดินต่อไป’’
‘’การโฟกัสกับเรื่องงานเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ควรโฟกัสตัวเองด้วยโดยเฉพาะกับเรื่องของความรู้สึก’’